กาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่ปลูกอ้อยมากที่สุดในประเทศไทย คือ มีพื้นที่ปลูกอ้อยมากถึง 7 แสนไร่ ได้ผลผลิตเฉลี่ย 9.3 ตันต่อไร่ แต่เพราะราคาอ้อยค่อนข้างต่ำ คือ 800-900 บาทต่อตัน เก็บเกี่ยวอ้อยขายส่งโรงงานน้ำตาลแต่ละปีแล้วชาวไร่อ้อยแทบจะไม่เหลือกำไร

ทั้งเกษตรกร ผู้นำชาวไร่อ้อย และวิทยาลัยเกษตรในจังหวัดกาญจนบุรี จึงได้พยายามคิดหาวิธีเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้สูงขึ้น เพื่อเอาชนะต้นทุนปลูกอ้อยให้ได้

และนี่คือวิธีการปลูกอ้อยให้ได้ 30 ตันต่อไร่ ที่คิดค้นวิจัยโดย คุณเสถียร มาเจริญรุ่งเรือง เกษตรกรชาวไร่อ้อย อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจบุรี รับประกันด้วยรางวัลเกียรติยศ เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาพืชไร่ ปี 2550 และปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน สาขาปราชญ์ดีเด่น ปี 2561

วิธีเพิ่มผลผลิตอ้อยให้ได้ 30 ตันต่อไร่ ตามวิธีการของ คุณเสถียร มาเจริญรุ่งเรือง ประกอบด้วยหลักการ 4 อย่าง คือ


1. ปรับปรุงดินด้วยปอเทือง

ดินที่ปลูกอ้อยติดต่อกันหลายปี โดยไม่เอาใจใส่บำรุงดินเลย ดินก็จะเสื่อม แน่น ปลูกพืชอะไรก็ไม่ได้ผล การปรับปรุงดินจึงเป็นพื้นฐานสำคัญของการเพิ่มผลผลิตอ้อยให้ได้ 30 ตันต่อไร่

วิธีการ คือ หว่านเมล็ดปอเทืองให้ทั่ว 5 กิโลกรัมต่อไร่ ปล่อยให้ปอเทืองเจริญเติบโต ออกดอก แล้วไถกลบหลังหว่านประมาณ 150 วัน จะได้ปุ๋ยพืชสดประมาณ 2 ตันต่อไร่ ทำให้ดินร่วนซุยเหมาะแก่การเพาะปลูก และยังอุดมด้วยธาตุอาหารไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทชเซียม อีกรวม 10-20 กิโลกรัมต่อไร่

2. ปรับเวลาปลูกเลี่ยงวัชพืช

ปกติฤดูหีบอ้อยจะอยู่ในช่วงเดือนธันวาคม - เมษายน เกษตรกรชาวไร่อ้อยควรรีบตัดอ้อยให้หมดตั้งแต่ช่วงเริ่มเปิดหีบ แล้วปลูกอ้อยให้ทันในเดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์ เฉพาะช่วง 3 เดือนนี้เท่านั้น เพราะเป็นช่วงปลายฝนที่ดินยังมีความชื้นอยู่ ปลูกแล้วอ้อยจะเจริญเติบโตเร็ว ขณะที่วัชพืชจะน้อยมาก เพราะกว่าวัชพืชจะทันตั้งตัวอ้อยก็โตและหน้าดินก็เริ่มแห้งเสียแล้ว เป็นสภาพที่ไม่เหมาะให้วัชพืชโตได้

3. ปรับวิธีปลูกด้วยระยะชิด

การปลูกอ้อยให้ได้ผลผลิตสูงต้องเพิ่มจำนวนลำต่อไร่ โดยต้องปลูกให้ชิดขึ้นเป็นแบบ 1 ร่อง 4 แถว คือ ร่องปลูก 80 เซ็นติเมตร ให้ปลูกอ้อย 4 แถว ระยะห่างกัน 20 เซนติเมตร วิธีการปลูกให้ฝังท่อนอ้อยลงไปในดินลึก 25 เซนติเมตร แล้วใช้ลูกกลิ้งทับหน้าดินด้วย วิธีนี้ทำให้หน้าดินแน่น เมื่อโดนแดดหน้าดินก็จะแห้งไปทำให้มีวัชพืชน้อย ขณะที่ความชื้นใต้ดินยังมีอยู่เพราะถูกหน้าดินที่ถูกกลิ้งทับกักไว้ เดือนเดียวอ้อยใต้ดินก็จะงอกโตขึ้นมาได้ขณะที่วัชพืชยังไม่ทันโต และสองเดือนอ้อยจะสูงท่วมเอว วัชพืชไม่ได้แดดก็จะเฉาไปเอง

ที่สำคัญ การปลูกอ้อยระยะชิดแบบนี้ต้องใช้อ้อยพันธุ์ใบตั้งเท่านั้น เช่น อู่ทอง 8 และ K92-213


4. เลิกเผาใบอ้อย

ปัญหาการเผาในที่โล่งแจ้งเป็นสาเหตุของฝุ่น PM2.5 ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เกษตรกรจึงไม่ควรเผา โดยเฉพาะเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่มักเผาใบอ้อยก่อนตัดควรปฏิบัติให้เป็นนิสัย คือ ไม่เผาใบอ้อย แต่ใช้วิธีพรวนระหว่างแถวเพื่อสับใบอ้อยกลับคืนลงไปในดิน วิธีนี้จะช่วยลดฝุ่น PM2.5 ได้ และช่วยให้ดินได้รับปุ๋ยพืชสดเพิ่มขึ้นด้วยไร่ละหลายตัน ไม่ต้องปลูกปอเทืองไปอีกหลายปี

ปลูกอ้อย 30 ตันต่อไร่ ทำได้จริง

วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีกาญจนบุรี ได้นำวิธีการนี้เข้ากระบวนการวัดผลตามรูปแบบของงานวิจัย ในพื้นที่ 7.54 ไร่ ปลูกอ้อย 18,757 ลำต่อไร่ หรือ 12 ลำต่อตารางเมตร พบว่าได้ผลผลิตอ้อยถึง 30.95 ตันต่อไร่ และได้ความหวานถึง 9.96 องศาบริกซ์ จึงได้เผยแพร่ผลงานและจัดฝึกอบรมเกษตรกรให้หันมาปลูกอ้อยด้วยวิธีการนี้มาตั้งแต่ปี 2555

นับว่าเป็นวิธีเพิ่มผลผลิตอ้อยแบบง่ายๆ แต่ได้ผลคุ้มค่าจริงๆ มีบางคนนำวิธีการนี้ไปประยุกต์ใช้ ปลูกอ้อยให้แน่นมากขึ้นกว่านี้ บำรุงดินดี ใส่ปุ๋ยดี และเพิ่มระบบน้ำหยดเข้าไปอีก จนปลูกอ้อยได้ถึง 40-60 ตันต่อไร่ แต่มีปัญหาตอนเก็บเกี่ยว คือ หาคนรับจ้างตัดยากเพราะอ้อยแน่นเกินไป ก็ต้องเลือกเอาว่าจะเอาแค่ 30 ตันต่อไร่ หรือจะเอา 40-60 ตันต่อไร่ไปเลย